เอกสารโอนรถ ใช้อะไรบ้าง โอนที่ไหน และโอนยังไง

เอกสารการโอนรถยนต์ หรือ โอนรถจักรยานยนต์ เพื่อเปลี่ยนผู้ที่เป็นเจ้าของรถ เช่น การซื้อขายรถ , การรับโอนจากไฟแนนซ์ โดยหลักๆเลยจะใช้เอกสารเหมือนกัน แตกต่างกันแค่ที่เป็นการโอนแบบบุคคล หรือ เป็นแบบการโอนนิติบุคคล (หจก. หรือ บริษัทต่างๆ ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล) การโอนจากไฟแนนซ์มาให้เรา ก็มักจะเป็นในรูปแบบนิติบุคคล โอนให้บุคคลธรรมดา

การโอนรถนั้นต้องไปดำเนินการยื่นเอกสาร และนำรถเข้าตรวจสภาพที่ขนส่งเท่านั้น ไม่สามารถตรวจสภาพเพื่อโอนรถที่สถานตรวจสภาพรถ หรือ ตรอ. ได้ แต่ตรอ. ส่วนใหญ่ก็มีบริการรับโอนรถด้วยเช่นกัน คือ ทางร้านจะนำเอกสารไปยื่นให้ที่ขนส่ง แทนตัวท่านเอง และบางร้านอาจจะมีบริการขับรถของท่านไปตรวจสภาพที่ขนส่งให้ด้วย หากท่านสนใจโอนรถในจังหวัดระยอง สามารถติดต่อเราได้เลยที่ ตรอ.เมืองยอง

ในกรณีที่ต้องการไปดำเนินการด้วยตนเอง ท่านต้องเตรียมเอกสารให้ครบ และติดอากรแสตมป์ให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำรถที่ต้องการโอน ขับไปที่ขนส่งจังหวัดนั้นๆ ที่ป้ายทะเบียนรถท่านอยู่ เช่น ถ้ารถท่านเป็นป้ายระยอง ก็ต้องโอนรถที่จังหวัดระยอง ถ้าจะโอนที่ขนส่งจังหวัดอื่น ต้องแจ้งย้ายด้วย

เอกสารการโอนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ (แบบบุคคล โอนให้บุคคล) ก็คือ

1. สมุดเล่มทะเบียนรถตัวจริง
2. สำเนาบัตรประชาชน เจ้าของรถ
3. สำเนาบัตรประชาชน ผู้รับโอน
4. แบบคำขอโอนและรับโอน จากกรมการขนส่งฯ ดาวน์โหลดที่นี่
5. หนังสือมอบอำนาจ เจ้าของรถ และผู้รับโอน พร้อมติดอากรแสตมป์ (ข้อนี้ต้องใช้ในกรณีที่ เจ้าของรถ หรือผู้รับโอนไม่ได้ไปทำด้วยตัวเอง รายละเอียดอยู่ด้านล่าง) ดาวน์โหลดที่นี่
6. ใบคำขออื่นๆ ขอใช้ที่อยู่ ดาวน์โหลดที่นี่ (ในกรณีที่ผู้รับโอนไม่ใช่คนจังหวัดนั้นๆ เช่น โอนรถทะเบียนระยอง แต่ผู้รับโอนมีที่อยู่ตามบัตรปชช. อยู่เชียงใหม่ เป็นต้น)
7. นำรถคันที่ต้องการจะโอน (ต้องนำไปตรวจสภาพที่ขนส่ง)

เอกสารการโอนแบบนิติบุคคล โอนให้บุคคล ก็คือ

1. สมุดเล่มทะเบียนรถตัวจริง
2. สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ของเจ้าของรถ
3. สำเนาบัตรประชาชนอผู้มีอำนาจลงนามบริษัท
4. สำเนาบัตรประชาชน ผู้รับโอน
5. แบบคำขอโอนและรับโอน จากกรมการขนส่งฯ ดาวน์โหลดได้ที่นี่
6. หนังสือมอบอำนาจ ผู้มีอำนาจลงนามบริษัท
7. หนังสือมอบอำนาจ ผู้รับโอน พร้อมติดอากรแสตมป์ (ข้อนี้ต้องใช้ในกรณีที่ เจ้าของรถ หรือผู้รับโอนไม่ได้ไปทำด้วยตัวเอง รายละเอียดอยู่ด้านล่าง) ดาวน์โหลดที่นี่
8. ใบคำขออื่นๆ ขอใช้ที่อยู่ ดาวน์โหลดที่นี่ (ในกรณีที่ผู้รับโอนไม่ใช่คนจังหวัดนั้นๆ เช่น โอนรถทะเบียนระยอง แต่ผู้รับโอนมีที่อยู่ตามบัตรปชช. อยู่เชียงใหม่ เป็นต้น
9. นำรถคันที่ต้องการจะโอนไปตรวจสภาพที่ขนส่ง

คำเตือน! เช็คให้ดีตอนได้เอกสารโอนรถมา

1. สำเนาบัตรประชาชน ผู้โอน และรับโอน ต้องยังไม่หมดอายุ
2. หนังสือรับรองนิติบุคคล หรือ บริษัท ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
3. แบบคำขอโอนและรับโอน ถ้าลงวันที่แล้ว และลงวันที่ไว้เกินกว่า 15 วัน ในวันที่มายืนเอกสารโอน จะเสียค่าปรับล่าช้าเพิ่ม 200 บาท
4. ควรเซ็นเอกสารไว้ 2 ชุด เผื่อกรณีมีปัญหา หรือ กรอกผิดเอกสาร จะได้มีสำรองไว้

จากนั้นก็นำเอกสารไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ และนำรถเข้าตรวจที่ขนส่ง (ถ้าโอนรถไฟแนนซ์ ไม่ต้องนำรถไปตรวจ สามารถยื่นแค่เอกสารแล้วโอนได้เลย)

ในกรณีที่มอบอำนาจให้คนอื่นไปโอนรถแทน ต้องเซ็นใบมอบอำนาจแนบไปด้วย เช่น ถ้าเจ้าของรถคนเก่า (ผู้โอน) และ เจ้าของรถคนใหม่ (ผู้รับโอน) ไม่ได้ไปยื่นเอกสารที่ขนส่งด้วย ก็ต้องใช้ใบมอบอำนาจทั้งหมด 2 ใบ คือ 1.ของเจ้าของรถคนเก่า(ผู้โอน) 1 ใบ และ 2.ใบมอบของเจ้าของรถคนใหม่(ผู้รับโอน) 1 ใบ

อ้างอิง: การโอนกรรมสิทธิ์รถ https://www.dlt.go.th/th/vehicle-registration/33